:
ยิ่งหิว...ยิ่งดี
อย่าปล่อยให้ท้องคุณว่าง ....บลาๆๆๆ อะไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องการที่ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองหิว หรือท้องว่าง หลุดทะลุเข้าสู่หูของผมเป็นประจำ อาจจะทั้งผ่านทางสปอตวิทยุ หรือโมษณาทาง TV
จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ใต้แปลกใจหรอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในเมื่อคุณขายของกิน จะให้ข้อความในโมษณานำเสนอไปทางไหนได้ละ และอีกอย่างแม่ผมก็มักจะถาเสมอเวลากลับมาจากโรงเรียนว่า 'กินข้าวมาแล้วหรือยัง' ยิ่งนั่นหมายความว่า เราไม่ควรปล่อยให้ตัวเองท้องว่าง หรือประมาณว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง
นั่นเท่ากับเป็นการย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการที่จะต้องทำให้ตัวเองอิ่มท้องอยู่เสมอ ผมเชื่อเช่นนั้นมาเสมอจนกระทั่งจุดยืนในความเชื่อตรงนี้ของผมต้องสั่นคลอนขนาดหนัก เมื่อมาเจอกับหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นหนังสือ
'ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี' ...นั่นคือชื่อของหนังสือเล่มนั้น
ปกติแล้ว ผมไม่ค่อยใส่ใจกับหนังสือเรื่องสุขภาพสักเท่าไร อาจจะเป็นเพราะตัวเองยังไม่แก่ หรือถึงวัยที่จะต้องมาใส่ใจกับเรื่องทำนองนี้ ก็เลยมักที่จะเลือกเดินเสี่ยงผ่านทางชั้นหนังสือในหมวดสุขภาพอยู่เป็นประจำแต่วันนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไรถึงเดินทางแล้วสายไปบรรจบกับหนังสือเล่มนี้พอดี แถมยังวางอย่างสง่าอยู่บนโขนหนังสือยายดีของ Category นั้น โดยที่อยู่ในอันดับ1 เสียด้วย เท่ากับย้ำให้เห็นว่า คงไม่ใช่มีผมคนเดียวเท่านั้น ที่แปลกใจกับชื่อเรื่อง
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยนายแพทย์ชาวญี่ปุ่นนามว่าโยะชิโนะริ นะงุโม: ซึ่งมีความเยี่ยวชาญทางด้านศัลย กรรมตกแต่งและเสริมสร้างร่างกาย รวมถึงยังเชี่ยวขาญทางค้านการรักษาโรคมะเร็งโดยเฉพาะที่ทรวงอก โดยนายแพทย์ ผู้นี้มีชื่อเสีงยอย่างมากในญี่ปุ่นและมักจะได้รับเชิญไปออกความเห็นตามสถานีโทรทัศน์ (ที่โน่นนะครับ) อยู่เป็นประจำ
เอาแค่พลิกข้าสู่หน้าสารบัญไล่ดูตามหัวข้อของบทความโดยที่ยังไม่ต้องอ่านเนื้อหาที่อยู่ข้างใน แค่นี้ก็ก็ทำเอาความเชื่อของผมสั่นคลอนอย่างหนักจนต้องรับพลิกเข้าไปพิสูจน์ความจริง
และจากการที่นายแพทย์ผู้นี้จั่วหัวว่า 'ทำไมการไม่กินอาหารจึงดีต่อสุขภาพ ? ทำเอาคนที่ชัดข้าวมื้อละ 2ขามอย่างผมถึงกับหนาว รวมถึงเขากำลังจะเขย่าความเชื่อของคนทั้งโลกด้วยการเชิญชวนให้หันมาทานอาหารวันละมื้อเท่านั้น
บาคาร่า
ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุปูนนี้ ผมกินอาหารวันละ 3 มื้อหรือมากกว่านั้นมาโดยตลอด ...ส่วนเหตุผลไม่ต้องถามเพราะปฏิบัติตามมาเสมอโดยที่ไม่เคยมีการตั้งคำถามหรือใส่ใจ ซึ่งเยื่อว่คนทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้
ดังงนั้นเมื่อ นายแพทย์นะงุโมะบอกว่า 'มาทานอาหารวันละมื้อกันเถอะ' มันก็เลยเกิดอาการงง และต้องหาคำตอบ เหมือนกับกำลังมีใครกำลังบอกว่าโลกไม่ใด้โคจรรอบดวงอาทิตย์ แต่โคจรรอบดวงจันทร์ต่างหาก
แน่นอนว่านายแพทย์ผู้นี้ไม่เขียนขึ้นมาลอยๆ โดยปราศจากหลักการหรือเหตุผลที่จะหนุนหลังถึงคำกล่าวนี้ เขาบอกว่าเป็นวิธีที่เขาปฏิบัติมานานและมีตัวอย่างที่พิสูจน์ได้จากวิกฤตที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองเมื่อตอนอายุ 35 ปี ซึ่งหลังจากที่เขาสูญเสียคุณพ่อและทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาระกดตันจนกระทั่งเครียดและใช้ชีวิตที่ไม่ยั้ง ทั้งเรื่องกิน และเรื่องต่างๆ จนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเกิดสภาวะแน่นหน้าอกตามมา
จนสุดท้าย เขาต้องหาททางออกให้กับปัญหาสุขภาพนี้ และได้นำไปสู่การเลิกทานเนื้อสัตว์ และการกินอาหารเพียง วันละมื้อเท่านั้น
เชื่อหรือไม่ว่า คุณหมอคนนี้บอกว่าการออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ ที่อ็อตอิดกันอยู่ตอนนี้ใช้ไม่ได้ผลในแง่ของการลดน้ำหนักอย่างที่คนส่วนใหญ่คาดหวังกัน
บาคาร่า