ดาวน์ซินโดรม เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อย เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 ส่งผลให้เด็กมีโครโมโซมเกินมา 1 แท่ง (Trisomy 21) โรคนี้พบได้ในเด็กทุกเชื้อชาติ ภาษา และเพศ
ดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดพลาดในการแบ่งเซลล์ของอสุจิหรือไข่ ส่งผลให้ทารกในครรภ์มีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง สาเหตุนี้พบได้บ่อยที่สุด คิดเป็น 95% ของผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม
อาการของดาวน์ซินโดรมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว เด็กดาวน์ซินโดรมจะมีลักษณะผิดปกติทางร่างกายและพัฒนาการ ดังนี้
ลักษณะทางร่างกาย
-ศีรษะเล็ก ,คอสั้น ,ใบหน้าแบน ,ตาเฉียง ,ปากเล็ก ,หูเล็ก ,ลิ้นใหญ่ ,กล้ามเนื้ออ่อนแรง ,นิ้วมือสั้น ,นิ้วโป้งตีนกาง
,พัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไป ,พูดช้า ,เดินช้า ,เรียนรู้ช้า
อาการอื่นๆ เช่น
-ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคไทรอยด์ โรคลมชัก
-ปัญหาทางสายตา
-ปัญหาทางการได้ยิน
เด็กดาวน์ซินโดรมแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนอาจมีอาการน้อย บางคนอาจมีอาการมาก สิ่งสำคัญคือต้องดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กดาวน์ซินโดรมอย่างเหมาะสม
ดาวน์ซินโดรมแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
-
Trisomy 21: เกิดจากการที่มีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง พบได้บ่อยที่สุด คิดเป็น 95% ของผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม
-
Translocation Down syndrome: เกิดจากการที่มีส่วนหนึ่งของโครโมโซมคู่ที่ 21 ไปยึดติดกับโครโมโซมคู่อื่น พบได้ประมาณ 4% ของผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม
-
Mosaic Down syndrome: เกิดจากเซลล์ในร่างกายบางส่วนมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา พบได้น้อยมาก คิดเป็น 1% ของผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม
การวินิจฉัยดาวน์ซินโดรมสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
-
การตรวจคัดกรอง: แพทย์จะตรวจเลือดมารดาเพื่อหาสารเคมีที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงของทารกในครรภ์ที่จะเป็นดาวน์ซินโดรม
-
การตรวจอัลตราซาวด์: แพทย์จะตรวจดูความผิดปกติของทารกในครรภ์
-
การตรวจ NIPT: เป็นการตรวจเลือดมารดาเพื่อหา DNA ของทารกในครรภ์
-
การเจาะน้ำคร่ำ: เป็นการเจาะน้ำคร่ำจากรกเพื่อตรวจหาโครโมโซมของทารก
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคดาวน์ซินโดรมให้หายขาด แต่มีวิธีการรักษาเพื่อพัฒนาการและคุณภาพชีวิตของเด็ก ดังนี้
-
กายภาพบำบัด: ช่วยให้เด็กมีกล้ามเนื้อแข็งแรง พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว
-
การฝึกพูด: ช่วยให้เด็กพูดได้
-
การฝึกอ่านเขียน: ช่วยให้เด็กอ่านเขียนได้
-
การศึกษาพิเศษ: ช่วยให้เด็กได้รับการศึกษาที่เหมาะสม
ดาวน์ซินโดรมไม่ใช่จุดจบของชีวิต เด็กดาวน์ซินโดรมสามารถเติบโตและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขเหมือนเด็กทั่วไป ด้วยการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสมจากครอบครัว สังคม และผู้เชี่ยวชาญ