การป้องกันพื้นผิวของรถยนต์คือกระบวนการที่ใช้เทคนิคและวัสดุต่าง ๆ เพื่อปกป้องผิวภายนอกของรถยนต์จากสภาวะที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหรือสึกกร่อนได้ เช่น การรับชมขีดข่วน การเปียกล้าง และการต่อสู้กับสารเคมีที่มีฤทธิ์กระแทกผิว การป้องกันพื้นผิวมีหลายวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อให้รถยนต์ดูสวยงามและใหม่เหมือนเดิม ป้องกันจากความเสียหายจากรอบข้าง และการลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
โดยบุคคลทั่วไปสามารถป้องกันพื้นผิวของรถยนต์ได้โดยใช้กรณีฟูล (wax) หรือสารป้องกันพื้นผิวอื่น ๆ ที่มีให้ซื้อจากร้านค้ารถยนต์ ซึ่งจะช่วยสร้างเลเยอร์ที่ปกป้องผิวของรถจากการเกิดรอยขีดข่วนและความเสียหายจากสารเคมี นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่บางแบบได้ใช้เทคโนโลยีการป้องกันพื้นผิวที่ทันสมัย เช่น เคลือบกระจกรถ (ceramic coating) หรือการใช้ชุดกระจกรถ (paint protection film) เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิสูงต่ำ แสงแดดและสารเคมีทำลายพื้นผิว
Ceramic Coating หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า Nano Ceramic Coating เป็นเทคโนโลยีการเคลือบผิวหน้ารถยนต์ที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยป้องกันและเสริมสุขภาพของผิวหน้ารถไม่ให้ถูกทำลายจากสารต่างๆ ที่อาจจะกระทบกระเทือนต่อผิวหน้าของรถ Ceramic Coating เป็นสารป้องกันการกรีดขูดและการเปียกได้ดี เช่น กรณีขับรถในสภาพอากาศฝุ่นและฝังตัวได้อย่างไม่มีปัญหา โดยสาร Ceramic Coating จะช่วยให้ผิวหน้าของรถไม่เค็มกรุบกรืดจากการต้องเผชิญกับสารต่างๆ ที่อาจจะทำให้รถมีรอยขีดข่วนหรือรอยซึมลงไปในเคลือบผิวหน้า
การใช้งาน Ceramic Coating ยังช่วยป้องกันการเกิดความเสียหายจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวสีของรถบ้านทุกคัน เลือนไปและดูไม่สดใส เมื่อพื้นผิวได้รับการคลุมเคียงจาก Ceramic Coating แล้ว จะช่วยกระจายแสง UV และป้องกันการเกิดสนิม (oxidation) ซึ่งทำให้ผิวเริ่มถลอกและหายไป (fading) เพื่อให้รถยนต์ของคุณสู้ต่อการกระทบของแสงแดดได้อย่างยืดหยุ่น
เคลือบเซรามิกอยู่ได้นานไหม อายุของการเคลือบนั้นหมายถึงระยะเวลาที่ผ่านไปตั้งแต่การเคลือบสีและป้องกันพื้นผิวของรถยนต์ด้วยสารเคลือบเซรามิกจนถึงจุดที่ต้องทำการเคลือบใหม่อีกครั้ง โดยสารเคลือบเซรามิกช่วยป้องกันการสกรูของสารต่างๆ เช่น แดด ฝุ่น และสารมูลพืชที่อาจทำให้พื้นผิวของรถยนต์เสียหายได้
การเคลือบเซรามิกรถยนต์ใช้ให้ได้อีกพื้นผิวหน้าโปร่งใสและมีความแข็งแกร่ง เพื่อป้องกันการรั่วไหลของสารไมโคร-อินท์ เช่น ไมโคร-ฝุ่น, เศษกระจก, แผ่นป้ายโฆษณา และสารอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผิวพื้นของรถยนต์ได้ อายุของการเคลือบเซรามิกรถยนต์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สารเคลือบที่ใช้, สภาพแวดล้อม, การดูแลรักษารถยนต์ เป็นต้น ในกรณีที่ไม่มีการเคลือบเซรามิกหรือการดูแลไม่ถูกต้อง เชื้อราและสารพิษจะสะสมบนพื้นผิวของรถยนต์ได้อีกที ทำให้ผิวพื้นของรถแสบคันและมีความไม่สะอาด